เศรษฐกิจโลก 1000 ปี No Further a Mystery
เศรษฐกิจโลก 1000 ปี No Further a Mystery
Blog Article
บริการแนะนำการเขียนอ้างอิงและบรรณานุกรม
บริจาค บริจาคหนังสือ รับมอบ-บริจาคหนังสือ
แล้วทำไมอยู่ดีๆ อังกฤษและฝรั่งเศสมาเจริญแทนเนเธอแลนด์?
อีกฟากหนึ่งของทวีปเอเชียกองทัพญี่ปุ่นซึ่งยึดครองคาบสมุทรเกาหลี และจีนบางส่วน โดยเฉพาะในนานกิงทหารญี่ปุ่นได้สังหารหมู่ชาวจีนในเมืองมากกว่าสี่แสนคน การกระทำอันอุกอาจนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนกับญี่ปุ่นยังคงย่ำแย่มาถึงปัจจุบัน แสนยานุภาพของกองทัพทำให้จักรวรรดิญี่ปุ่นเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย กองทัพญี่ปุ่นได้บุกยึดครองดินแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกือบทั้งหมด รวมถึงบังคับให้รัฐสยามยอมเป็นทางผ่านไปยังพม่า ภายไต้ฝุ่นควันของสงครามความกดดันบีบคั้นนำมาสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่
ความเจริญทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ก่อให้เกิดความเจริญทางเทคโนโลยี
แต่ถ้าพูดถึงเนื้อหาก็ได้เต็มๆ แหละ อ่านเล่มเดียวก็เห็นภาพใหญ่ของประวัติศาสตร์ช่วงพันปีที่ผ่านมา ย้ำว่าประวัติศาสตร์นะ เพราะเศรษฐกิจพูดถึงอยู่แค่สามสี่ร้อยปีก่อนหน้าอย่างที่บอกไป
ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ทั้งเศรษฐกิจ ผลของมันทำให้ชีวิตของมนุษย์ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ก่อนหน้านี้การผลิตโดยรวมขึ้นอยู่กับปริมาณแรงงานของมนุษย์หรือสัตว์ในครอบครองคูณด้วยเวลาทำงานเท่านั้น แต่การถือกำเนิดของเครื่องจักรจะนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
สภาพการเมืองที่ต่างกันระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส มีส่วนยังไงกับการที่สุดท้ายอังกฤษกลายมาเป็นผู้นำโลก ?
ในสมัยนั้น ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดไม่ใช่ประเทศแต่เป็นศาสนจักร นอกจากอำนาจที่อยู่เหนือจิตใจแล้ว เศรษฐกิจโลก 1000 ปี ยังเป็นผู้กุมอำนาจทางเศรษฐกิจของหลายประเทศทั่วยุโรป เช่นเดียวกับทุกเรื่องราวในประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษย์ ผู้ที่มีอำนาจมากเกินไปถึงจุดหนึ่งก็จะย้อนกลับมาทำลายตัวเอง
เริ่มมาตั้งแต่ยุคกลาง เน้นดำเนินเรื่องเร็ว โฟกัสที่ประวัติศาสตร์เอาจุดเด่นๆ ไม่เน้นลงรายละเอียดเลย
อ่านง่ายมากสไตล์อ่านบล็อก เรียบเรียงได้ดี ไล่ประวัติศาสตร์สำคัญๆของโลกตั้งแต่จบยุคกลางมาถึงปัจจุบัน วางไทม์ไลน์ได้น่าสนใจ ทั้งที่ไม่มีสาระแปลกใหม่ ไม่ได้เจาะลึกเนื้อหาใดๆทั้งสิ้น เหมาะจะอ่านเป็นไกด์ไลน์ไปศึกษาต่อในเรื่องที่สนใจ
จากความเป็นชาตินิยมของอดอล์ฟฮิตเลอร์ นำมาสู่การพยายามขับไล่ผู้คนเชื้อชาติอื่นให้ออกไปจากแผ่นดินแดนของชาวเยอรมัน โดยเฉพาะชาวยิว ตั้งแต่พรรคนาซีก้าวขึ้นมามีอำนาจได้ออกกฎหมายหลายฉบับเพื่อจำกัดสิทธิ์ของชาวยิว เรื่องนี้นำมาสู่การจัดตั้งค่ายกักกันเพื่อรวบรวมชาวยิว ท้ายที่สุดจึงนำมาสู่การสังหารด้วยวิธีต่างๆ นับเป็นการสังหารล้างเผ่าพันธุ์ที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
และฟองสบู่ทางการเงินของฝรั่งเศส ถอยหลังและถดถอยอย่างร้ายแรง ผู้คนหวาดกลัวกับการใช้เงินกระดาษและเงินเฟ้อทำลายระบบเศรษฐกิจในทุกระดับ นับว่าวิกฤตเศรษฐกิจของฝรั่งเศสหนักหนาสาหัสกว่าอังกฤษมาก รัฐบาลไม่เหลือหนทางในการหาเงินอื่นอีกแล้วนอกจากการขึ้นภาษี ซึ่งผู้เสียภาษีของฝรั่งเศสก็คือชนชั้นที่สามซึ่งก็คือสามัญชนทั่วไป ในขณะที่ชนชั้นสูงยังคงใช้ชีวิตหรูหราในพระราชวังแวร์ซายน์ จนสุดท้ายประชาชนก็หมดความอดทน
หากมองในธีมหลักของหนังสือคือเศรษฐกิจ บริบทของบางเหตุการณ์อาจไม่จำเป็นต้องเล่าละเอียด เพียงเล่าเชื่อมต่อกันให้เป็นเหตุเป็นผลก็น่าจะเพียงพอ เพียงแต่ตอนอ่านมันรู้สึกติดๆนิดหน่อย